NEWS

แอมโมไนต์ของฟรานซิส ลี, ความลุ่มหลงในชนชั้นและเพศวิถี

29 Dec 2020

แอมโมไนต์ของฟรานซิส ลี, ความลุ่มหลงในชนชั้นและเพศวิถี

เขียนโดย Joshua Encinias , บทความเผยแพร่โดย thefilmstage.com

แปลบทความโดย ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี

ผมไม่ใช่นักแสดงที่เก่ง เอาเข้าจริง ผมแสดงได้ห่วยมาก ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าผมเลิกเป็นนักแสดงมา 15 ปีแล้ว ที่ผมตัดสินใจเป็นนักแสดง เพราะผมเกิดที่ยอร์กเชียร์ ไกลปืนเที่ยงมากๆ เรียนก็ห่วย ทุกคนในเมืองเป็นชนชั้นแรงงาน ผมอยากเขียนบท อยากทำหนัง แต่ผมไม่รู้ว่าต้องเริ่มยังไง ผมไม่มีต้นแบบให้ทำตาม ทางเดียวที่พอจะนึกออกคือไปเป็นนักแสดง ไปเรียนการแสดงซะ จบแล้วก็ไปหาเอเยนต์ เผื่อจะได้ไปเล่นหนังเล่นละคร

ผมเก็บความฝันนั้นไว้โดยไม่บอกใครมาเป็นปีๆ ผมไม่เคยกล้ายกมือเสนอตัวว่าผมอยากเป็นนักแสดง แต่ผมโชคดี แม้ผมจะไม่ค่อยมีฝีมือเท่าไหร่ก็เถอะ ผมได้ทำงานกับผู้กำกับเก่งๆ อย่างไมค์ ลีห์ (ฟรานซิส ลี เคยแสดงในหนัง Topsy Turvy ของไมค์ ลีห์) ไมค์สอนผมเยอะทีเดียวเรื่องตัวละคร วิธีการพัฒนาตัวละคร รายละเอียดและสิ่งแวดล้อมตัวละคร ผมคิดว่า ถ้าผมอายุ 40 แล้วยังไม่ได้กำกับหนัง ผมก็ยอมรับชะตากรรมแล้ว ต่อมาผมก็เริ่มเขียนบททำหนังสั้น ผมไม่มีปัญหาไปเข้าเรียนโรงเรียนหนังที่ไหนเลย ไม่มีเลย ผมเรียนหนังจากการดูหนังเพียงอย่างเดียว

ผมรู้เรื่องของ แมรี่ แอนนิ่งครั้งแรกในปี 2017 และพบว่า ไม่ค่อยมีข้อมูลบันทึกเกี่ยวกับเธอไว้เลย ผมเริ่มสนใจในตัวเธอเพราะว่าเธอทำให้ผมนึกถึงตัวเอง เธอเป็นคนจน ชนชั้นแรงงาน ในสังคมที่เต็มไปด้วยชนชั้นและโครงสร้างแบบชายเป็นใหญ่ เธอเรียนหนังสือมาน้อย แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเธอ ความมุมานะของเธอ ทำให้เธอเรียนรู้เรื่องฟอสซิลและกลายเป็นคนที่โดดเด่นในแวดวงมานุษยวิทยาของยุคนั้น ชีวิตของเธอมันสั่นสะเทือนจิตใจผมอย่างรุนแรง ผมอยากเชิดชูเธอ อยากเล่าเรื่องราวของเธอให้สมกับคุณค่าของเธอ ผมรู้ดีว่าผมไม่ได้ต้องการทำหนังชีวประวัติ แต่สิ่งที่ผมอยากทำก็คือ ผมอยากจินตนาการถึงชั่วขณะหนึ่งในชีวิตของเธอ ว่าเธอมีชีวิตอยู่อย่างไรกันแน่

ส่วนตัวผมเองเป็นคนหมกมุ่นเรื่องความสัมพันธ์อันแนบชิดระหว่างมนุษย์ ผมอยากถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ใกล้ชิด ละเอียดอ่อน ผมเลยเริ่มคิดว่า คนอย่างแมรี่จะมีความสัมพันธ์แบบไหนกันนะ ผมไม่รู้สึกเลยว่าเธอจะคบหากับผู้ชาย เพราะตลอดชีวิตของเธอ เธอถูกผู้ชายมองไม่เห็นความสำคัญมาโดยตลอด พวกเขาชอบยึดฟอสซิลของเธอไปเป็นของตัวเอง มันดูเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีความเท่าเทียมเอาเสียเลย แต่กับผู้หญิงอาจจะไม่เหมือนกัน ในขณะเดียวกัน ผมก็ได้อ่านเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงด้วยกันในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 โดยเฉพาะงานวิชาการของแครอล สมิธ โรเซ็นเบิร์ก ซึ่งอ้างอิงจากจดหมายหลายฉบับที่พวกผู้หญิงเขียนถึงกันในตอนนั้น อันเป็นหลักฐานถึงความปรารถนา ความรัก ที่ไม่เคยมีใครสนใจ ผมอยากจะเปิดเผยส่วนนั้น ในขณะเดียวกันก็ต้องการยกย่องเชิดชูแมรี่ แอนนิ่งไปพร้อมกัน 

หนัง 2 เรื่องที่ผมทำ เล่าถึงตัวละครที่เรามักจะไม่ได้เห็นบนจอบ่อยๆ พวกเขาเป็นชนชั้นแรงงาน เป็นเควียร์ เป็นคนชายขอบของสังคม ถูกตัดขาด มีแต่ความเปล่าเปลี่ยวเงียบเหงา อันเป็นสิ่งที่ผมได้ประสบพบเจอ ระหว่างที่ผมพยายามดิ้นรนหาทางทำหนัง ผมวางมือจากงานแสดง หันไปทำงานในสุสานรถ งานใช้แรงงานที่ต้องทำเจ็ดวันไม่มีวันหยุด เก็บเงินเพื่อเอาไปทำหนังสั้น เพราะหาทุนจากที่อื่นไม่ได้ ผมต้องทำงานตอน 9 โมงเช้าทุกวัน ผมจึงต้องตื่นตี 4 เพื่อมานั่งเขียนบท เขียนไปโดยไม่รู้ว่าทำผิดหรือทำถูก แต่พยายามให้ตรงกับสิ่งที่ตัวเองต้องการจะเล่ามากที่สุด ผมต่อสู้และเสียสละเพื่อความฝัน เพื่อจะได้มองดูหนังที่ตัวเองทำแล้วภาคภูมิใจว่า ตนเองได้ซื่อสัตย์กับเรื่องที่อยากเล่าแล้ว 

ผมเกิดในครอบครัวชนชั้นแรงงานทางตอนเหนือของอังกฤษ นี่คือเงื่อนไขใหญ่ในชีวิตของผม ส่งผลต่อเรื่องการศึกษา ความมั่นคงทางการเงิน และการเข้าสังคม ผมต้องเจออุปสรรคในชีวิต เพราะเนื่องจากตัวตนที่ผมเป็น และปูมหลังในชีวิตของผม มันไม่สามารถสลัดมันออกไปจากความคิดของผมได้เลย ไม่ว่าผมจะทำอะไร หรืออยู่ที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าผมจะไปร่วมงานไหน ทั้งงานประกาศรางวัล งานเลี้ยงอาหารค่ำ ผมจะวิตกทุกครั้ง เมื่อผมนึกว่าตนเองมาจากชนชั้นไหน ถ้าผมหยิบแก้วผิดใบล่ะ หรือพูดอะไรที่ไม่เข้าหูคนอื่นล่ะ หรือถ้าผมเผลอดื่มมากเกินไปล่ะ ผมยังกังวลเรื่องพวกนี้อยู่ไม่หาย ผมไม่มีโอกาสไปเข้าสังคม หรือหาคอนเนคชั่นอะไรเลย เพราะผมต้องทำงานหาเงินค่าเช่าบ้าน ยังไม่นับที่ผมเป็นเกย์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้คนมองข้ามได้ง่ายกว่าปกติ ปมต่างๆ เหล่านี้สะท้อนออกมาในงานของผมด้วย และหนังเรื่องต่อๆ ไปของผมก็คงจะวนเวียนอยู่กับประเด็นเหล่านี้

หนังเรื่องนี้เหมือนเป็นงานที่ส่วนตัวมากๆ ของผม เพราะมันเป็นเรื่องของคนที่ชีวิตมีทางเลือกไม่มากนัก พอทางเลือกมีไม่มาก เรื่องจะทำหรือจะไปตามที่ใจปรารถนาก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย การไม่มีทางเลือกคือปัญหาใหญ่ที่สุดในชีวิตของมนุษย์สักคน